การทำเสาเข็มเจาะเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความระมัดระวังและเทคนิคเฉพาะเพื่อให้ได้เสาเข็มที่มีคุณภาพและมั่นคง ขั้นตอนการทำเสาเข็มเจาะอย่างละเอียดมีดังนี้
1. การสำรวจพื้นที่
- วางแผนตำแหน่ง ที่ตั้งของเสาเข็มบนแผนที่ และกำหนดจำนวนเสาเข็มที่ต้องการใช้ เพื่อให้พื้นที่มีความแข็งแรงหลังจากงานเสร็จงานแล้ว และไม่ให้งบประมาณบานปลาย
- การสำรวจดิน (Soil Investigation) ทำการสำรวจและทดสอบดินในพื้นที่ที่จะก่อสร้าง เพื่อประเมินลักษณะของดิน ความหนาแน่น ความแข็งแรง และความลึกที่เหมาะสมสำหรับการเจาะเสาเข็ม
2. เตรียมสถานที่เพื่อเจาะเสาเข็ม
- การเตรียมพื้นที่ (Site Preparation) ทำความสะอาดพื้นที่ที่ต้องการก่อสร้าง รวมถึงการกำจัดสิ่งกีดขวางต่าง ๆ และจัดเตรียมพื้นที่สำหรับวางเครื่องมือและอุปกรณ์
- การติดตั้งเครื่องเจาะ ตั้งเครื่องเจาะในตำแหน่งที่ต้องการเจาะเสาเข็ม
3. ขั้นตอนเจาะหลุม (Boring)
- การเจาะนำร่อง (Pilot Hole Drilling) เริ่มต้นเจาะนำร่องด้วยเครื่องมือเจาะเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของตำแหน่งและแนวทางการเจาะ
- เจาะลึก (Main Boring) เจาะหลุมให้ได้ขนาดและความลึกที่ต้องการ โดยใช้เครื่องเจาะหลุมขนาดใหญ่ เช่น Rotary Drilling Rig หรือ Kelly Bar
- การควบคุมการเจาะ (Drilling Control) ควบคุมความตรงของหลุมและตรวจสอบการเจาะให้เป็นไปตามมาตรฐานและไม่เกิดการยุบของดินข้างเคียง และไม่ให้หลุมเบี้ยวหรือเอียง
4. ขั้นตอนการเสริมเหล็ก (Reinforcement Installation)
- เหล็กเสริม (Rebar Cage Assembly) ประกอบเหล็กเสริมให้ได้ขนาดและรูปทรงตามที่ออกแบบ
- ติดตั้งเหล็กเสริม (Rebar Cage Installation) ใส่โครงเหล็กเสริมลงไปในหลุมเจาะ โดยมีการเชื่อมต่อกันให้แข็งแรง
5. เทคอนกรีต (Concrete Pouring)
- เตรียมคอนกรีต ที่มีคุณภาพสูงและตรวจสอบส่วนผสมให้ถูกต้องตามมาตรฐาน
- เทคอนกรีตลงหลุม ที่ได้ทำการเจาะไว้แล้ว โดยใช้วิธีการเทคอนกรีตที่ต่อเนื่องเพื่อป้องกันการแยกชั้นของคอนกรีตและการเกิดโพรงในเสาเข็ม
- การใช้ท่อเท (Tremie Method) หากเป็นการเจาะหลุมในน้ำหรือดินที่มีน้ำ ท่อเทคอนกรีตจะถูกใช้เพื่อเทคอนกรีตจากด้านล่างขึ้นมาด้านบนเพื่อลดการเกิดช่องว่าง
6. การทดสอบและตรวจสอบ (Testing and Inspection)
- การทดสอบความแข็งแรงของคอนกรีต (Concrete Strength Testing) ทดสอบความแข็งแรงของคอนกรีตที่ถูกเทลงในหลุม
- การตรวจสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม (Integrity Testing) ใช้วิธีการทดสอบต่าง ๆ เช่น Sonic Echo Test หรือ Crosshole Sonic Logging เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม
7. การเก็บข้อมูลและบันทึกผล (Data Collection and Reporting)
- การบันทึกข้อมูลการเจาะ (Drilling Data Logging) บันทึกข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการเจาะ เช่น ความลึก ขนาด และเวลาที่ใช้
- การรายงานผล (Reporting) ทำรายงานผลการทำงานทั้งหมดเพื่อให้ผู้รับเหมาหรือเจ้าของโครงการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง
การทำเสาเข็มเจาะเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความชำนาญและเทคนิคขั้นสูง การดำเนินงานต้องเป็นไปอย่างถูกต้องตามมาตรฐานวิศวกรรม เพื่อให้ได้เสาเข็มที่มีคุณภาพและสามารถรองรับน้ำหนักของโครงสร้างได้อย่างปลอดภัย สามารถโทรปรึกษาเราได้ฟรี เราทำงานด้านนี้มากว่า20ปี สามารถให้คำแนะนำได้อย่างดี เพื่อให้ท่านไม่เกิดความเสียหายในภายหลัง ทางเราวิ่งงานทั่วชลบุรี และภาคตะวันออก